Bent :Matchbox 20
If I fall along the way หากฉันล้มลงกลางทาง
Pick me up and dust me off โปรดดึงฉันขึ้นและช่วยปัดฝุ่นให้ที
And if I get too tired to make it และหากฉันอ่อนล้าเกินไำปที่จะสู้ต่อ
Be my breath so I can walk โปรดเป็นลมหายใจให้ฉันก้าวต่อไป
If I need some other love หากฉังยังต้องการความรักจากที่อื่น
Give me more than I can stand โปรดให้ความรักฉันเพิ่มอีกให้มากกว่าที่ฉันมี
And when my smile gets old and faded และเมื่อรอยยิ้มฉันเริ่มเก่าและจางหาย
Wait around I'll smile again โปรดรอสักหน่อย แล้วฉันจะยิ้มอีกครั้ง
Shouldn't be so complicated โปรดอย่าทำให้มันซับซ้อนยุ่งยาก
Just hold me and then ก็แค่กอดฉันไว้และ
Just hold me again แค่กอดฉันไว้อีกครั้ง
Pick me up and dust me off โปรดดึงฉันขึ้นและช่วยปัดฝุ่นให้ที
And if I get too tired to make it และหากฉันอ่อนล้าเกินไำปที่จะสู้ต่อ
Be my breath so I can walk โปรดเป็นลมหายใจให้ฉันก้าวต่อไป
If I need some other love หากฉังยังต้องการความรักจากที่อื่น
Give me more than I can stand โปรดให้ความรักฉันเพิ่มอีกให้มากกว่าที่ฉันมี
And when my smile gets old and faded และเมื่อรอยยิ้มฉันเริ่มเก่าและจางหาย
Wait around I'll smile again โปรดรอสักหน่อย แล้วฉันจะยิ้มอีกครั้ง
Shouldn't be so complicated โปรดอย่าทำให้มันซับซ้อนยุ่งยาก
Just hold me and then ก็แค่กอดฉันไว้และ
Just hold me again แค่กอดฉันไว้อีกครั้ง
Can you help me I'm bent โปรดช่วยฉันได้มั้ยฉันกำลังอยู่ในช่วงหัวเหลียวหัวต่อ (นอกลู่นอกทาง)
I'm so scared that I'll never ฉันกลัวเหลือเกินว่าจะไม่มีโอกาส
Get put back together ทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก
You're breaking me in เธอกำลังจะทำให้เราขาดจากกัน
And this is how we will end และนี่กำลังจะเป็นจุดจบ
With you and me bent ของเราทั้งสองคน อยู่ในช่วงหัวเหลียวหัวต่อ
If I couldn't sleep could you sleep หากฉันข่มตาหลับไม่ลง เธอจะหลับลงหรือ
Could you paint me better off เธอช่วยแต่งแต้มสิ่งดีๆให้ฉันได้ไหม
Could you sympathize with my needs โปรดช่วยปลอบโยนฉันด้วยการช่วยทำตามใจฉันหน่อย
I know you think I need a lot ชั้นรู้ดี เธอคิดว่าฉันร้องขอมากมายเหลือเกิน
I started out clean but I'm jaded ฉันเองก็เริ่มต้นพยายามทำใจ แต่ฉันเหนื่อยเหลือเกิน
Just phoning it in แค่โทรมา
Just breaking the skin แค่้ทำลายกำแพงนี้
Start bending me โปรดผูกฉันที
It's never enough มันไม่เคยพอ
I feel all your pieces ฉันยังคงรู้สึกได้ถึงทุก ๆ สิ่งในความเป็นเธอ
Start bending me โปรดช่วยผูกฉันเอาไว้
Keep bending me until I'm completely broken in ช่วยผูกให้อยู่ในกรอบจนกว่าความสับสนของฉันจะแตกสลายไป
How deep is your love : The Bee Gees
I'm so scared that I'll never ฉันกลัวเหลือเกินว่าจะไม่มีโอกาส
Get put back together ทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก
You're breaking me in เธอกำลังจะทำให้เราขาดจากกัน
And this is how we will end และนี่กำลังจะเป็นจุดจบ
With you and me bent ของเราทั้งสองคน อยู่ในช่วงหัวเหลียวหัวต่อ
If I couldn't sleep could you sleep หากฉันข่มตาหลับไม่ลง เธอจะหลับลงหรือ
Could you paint me better off เธอช่วยแต่งแต้มสิ่งดีๆให้ฉันได้ไหม
Could you sympathize with my needs โปรดช่วยปลอบโยนฉันด้วยการช่วยทำตามใจฉันหน่อย
I know you think I need a lot ชั้นรู้ดี เธอคิดว่าฉันร้องขอมากมายเหลือเกิน
I started out clean but I'm jaded ฉันเองก็เริ่มต้นพยายามทำใจ แต่ฉันเหนื่อยเหลือเกิน
Just phoning it in แค่โทรมา
Just breaking the skin แค่้ทำลายกำแพงนี้
Start bending me โปรดผูกฉันที
It's never enough มันไม่เคยพอ
I feel all your pieces ฉันยังคงรู้สึกได้ถึงทุก ๆ สิ่งในความเป็นเธอ
Start bending me โปรดช่วยผูกฉันเอาไว้
Keep bending me until I'm completely broken in ช่วยผูกให้อยู่ในกรอบจนกว่าความสับสนของฉันจะแตกสลายไป
How deep is your love : The Bee Gees
คำที่สำคัญ
ิbent = ความถนัด,ตั้งใจ,มุ่งหมาย...ยัึงหมายถึง งอ,โค้ง หัวโค้ง ในเพลงหมายถึงความรักกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ว่าจะไปทางไหนดี (เอาไงดี)
Can you help me I'm bent = แปลตรงตัวก็คือ ช่วยฉันหน่อยฉันกำลังงอ ก็คือช่วยทำให้ตรง หมายความว่าตอนนี้ฉันออกนอกลู่นอกทาง เธอช่วยทำให้ฉันดีขึ้นมาเหมือนเดิมได้มั้ย (bent เป็นกริยาช่องที่ 3 ของ bend)
bend = เงื้อน, ผูกเงื้อน...ยังหมายถึง งอ,โค้ง หัวโคง Start bending me โปรดผูกให้ฉันอยู่ในกรอบ...complicated = จุกจิก,ทำให้ยุ่ง
I know your eyes in the morning sun ฉันเห็นดวงตาเธอในแสงตะวันยามเช้า
I feel you touch me in the pouring rain ฉันได้รู้สึกถึงสัมผัสของเธอเหมือนสายฝนโปรย
And the moment that you wander far from me และในเวลาเดียวกันที่เธออยู่ห่างจากฉัน
I wanna feel you in my arms again ฉันก็อยากให้มีเธอในอ้อมกอดของฉันอีกครั้ง
And you come to me on a summer breeze และเธอมาหาฉันในสายลมแห่งฤดูน้อน
Keep me warm in your loveThen you softly leave ทำให้ฉันอุ่นอยู่ในรักของเธอแล้วเธอก็จากไปอย่างนุ่มนวล
And it's me you need to show How deep is your love?
I feel you touch me in the pouring rain ฉันได้รู้สึกถึงสัมผัสของเธอเหมือนสายฝนโปรย
And the moment that you wander far from me และในเวลาเดียวกันที่เธออยู่ห่างจากฉัน
I wanna feel you in my arms again ฉันก็อยากให้มีเธอในอ้อมกอดของฉันอีกครั้ง
And you come to me on a summer breeze และเธอมาหาฉันในสายลมแห่งฤดูน้อน
Keep me warm in your loveThen you softly leave ทำให้ฉันอุ่นอยู่ในรักของเธอแล้วเธอก็จากไปอย่างนุ่มนวล
And it's me you need to show How deep is your love?
แสดงให้ฉันเห็นหน่อยเถอะ ว่าควมรักของเธอนั้นลึกสักเท่าใด
How deep is your love ความรักของเธอลึกสักเท่าไร
I really need to learn ฉันอยากเรียนรู้จริง ๆ
'Cause we're living in a world of fools เพราะเราก็ต้องอยู่ในโลกของคนเขลา
Breakin’ us down ที่จะทำลายเราให้ย่ำแย่
When they all should let us be ในขณะที่ควรจะปล่อยให้เราดำเนินไปเอง
We belong to you and me เราเป็นของกันและกัน
I believe in you ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ
You know the door to my very soul เธอรู้จักประตูสู่ตัวตันของฉัน
You're the light in my deepest, darkest hour เธอคือแสงสว่างอันโมงยามของฉัีนยามที่มืดมิด
You're my saviour when I fall เธอคือผู้ช่วยเหลือยามฉันล้มลง
And you may not think I care for you เธออาจคิดว่าฉันไม่ได้เอาใจใส่เธอนัก
When you know down inside เืืมือเธอมองเห็นภายใน
That I really do ขอจงได้แสดงให้ฉันได้รู้
And it's me you need to show ก็จะงแสดงให้ฉันได้รับรู้ด้วยเถอะ
How you can speak ที่เธอสามารถพูด
Right to my heart สื่อกับใจฉันได้
Without saying a word, โดยที่ไม่ได้เอื่อนเอ่ยคำใดเลย
You can light up the dark เธอเป็นแสงไฟขับไล่ความมืด
Try as I may แม้ว่าฉันจะพยายามอธิบายอย่างไร
I could never explain ก็ไม่มีวันอธิบายได้
What I hear when สิ่งที่ฉันได้ยินก็คือ ยามที่ซึ่ง
You don't say a thing เธอไ่ม่ได้เอ่ยเอื้อนคำใด
The smile on your face รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้น
Lets me know ทำให้ฉันรู้ว่า
That you need me เธอขาดฉันไม่ได้
There's a truth ความจริง
In your eyes ปรากฏอยู่ในดวงตาคู่นั้น
Saying you'll never leave me ดวงตาเธอบอกว่า เธอไม่มีวันทิ้งฉันไปหรอก
The touch of your hand says การสัมผัสของเธอมันบอกได้ว่า
You'll catch me เธอจะจับฉันไว้
Whenever I fall ยามที่ฉันล้มลง
You say it best เธอบอกฉันได้อย่างดีที่สุดแล้ว
When you say ในยามที่เธอไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใด
Nothing at all เพราะสายตาของเธอบอกฉันแล้ว
All day long วันทั้งวัน
I can hear people ฉันได้ยินผู้คน
Talking out loud พูดกับเซ็งแซ่
But when you hold me near แต่เมื่อเธอโอบกอดฉันไว้ใกล้ ๆ
You drown out the crowd เสียงผู้คนเหล่านั้นก็มลายหายไป
(The crowd)
Try as they may แม้พวกเขาจะพยายามอย่างไร
They could never define ก็ไม่มีวันที่จะได้คำนิยาม
What's been said สิ่งที่ได้พูดออกไป
Between your heart and mine ระหว่างใจของสองเราได้
คุณเคยเชื่อหรือเปล่าครับว่านัยน์ตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ
การที่ไม่พูดอะไรเลย ก็สามารถแสดงความรักความห่วงหาอาทรได้
ไม่เืชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะคนสมัยก่อนเขาไม่มาส่งเสียงปิดปิ้ว กรี๊ดกร๊าด
เหมือนคนสมัยนี้ หากชอบใคร รักใคร โกรธใครขึ้นมา เดี๋ยวนี้คนเรา
มักจะแผดเสียง เมื่อมีอารมณ์ ไม่ว่าดีหรือร้าย เรารับเอาอารมณ์ของ
พวกฝรั่งเขามา แต่ก็มีฝรั่งอีกกลุ่มหนึ่่งชอบใช้สายตาเพื่อบอกความในใจ
เหมือนสังคมไทย ญี่ปุ่นสมัยก่อน ดังในเนื้อเพลงนี้
I feel the rain ฉันรู้สึกถึงสายฝนที่หนาวเหน็บ
What happened to you สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอนั้น
I can't get to you ฉันเข้าไปไม่ถึงหรอก
Cause there's a wall เพราะมีกำแพง
In your heart ที่เธอสร้างขึ้น (ในใจเธอ)
That no one can get through และไม่มีใครสามารถผ่านเข้าไปได้
And it's cold and it's dark มันทั้งหนาวเหน็บและมืดมิด
And you don't have a clue และเธอก็ไม่ได้บอกอะไรให้ฉันรู้เลย
But this wall it will fall แต่กำแพงนี้จะทลายลง
If it's the last thing I do ถ้าหากมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำ
I'll get through this wall in your heart ฉันจะฝ่ากำแพงเพื่อไปอยู่ในหัวใจเธอ
I know your soul ฉันหยั่งรู้จิตใจของเธอ
I know I'm home ฉันรู้ว่า ฉันคือบ้านที่อบอุ่น
Just come here to me เพียงแค่กลับมาหาฉันที่นี่
I'll let you run through me เพียงแค่คุณวิ่งมาหาฉัน
We'll break down all the troubles we have found ฉันจะฟันฝ่าอุปสรรค์ทั้งหลายที่เจอะเจอ
And I'll find a way to mend your broken pieces และฉันจะหาทางสมานใจที่รวดร้าวนั้น
We'll hold hands and be friends จับมือฉันซิ แล้วเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ
Until the end and our love will be forever จนกว่าจะจากกัน และจากนี้ความรักเราก็จะอยู่นิรันดรคำที่น่าสนใจ
We'll hold hands and be friends = จับมือฉันซิ แล้วเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ ประโยคนี้หมายความว่า การจับมือกันนั้นเท่ากับเป็นการหยิบยื่นความรักให้แก่กันและกันแล้ว การเป็นเพื่อนกันนั้น หมายถึงการเป็นเพื่อนคู่ชีวิตประคับประคองชีวิตคู่ให้ตลอดรอดฝั่ง เหมือนดั่งประโยคสุดท้ายตอนจบของเนื้อเพลง
How deep is your love ความรักของเธอลึกสักเท่าไร
I really need to learn ฉันอยากเรียนรู้จริง ๆ
'Cause we're living in a world of fools เพราะเราก็ต้องอยู่ในโลกของคนเขลา
Breakin’ us down ที่จะทำลายเราให้ย่ำแย่
When they all should let us be ในขณะที่ควรจะปล่อยให้เราดำเนินไปเอง
We belong to you and me เราเป็นของกันและกัน
I believe in you ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ
You know the door to my very soul เธอรู้จักประตูสู่ตัวตันของฉัน
You're the light in my deepest, darkest hour เธอคือแสงสว่างอันโมงยามของฉัีนยามที่มืดมิด
You're my saviour when I fall เธอคือผู้ช่วยเหลือยามฉันล้มลง
And you may not think I care for you เธออาจคิดว่าฉันไม่ได้เอาใจใส่เธอนัก
When you know down inside เืืมือเธอมองเห็นภายใน
That I really do ขอจงได้แสดงให้ฉันได้รู้
And it's me you need to show ก็จะงแสดงให้ฉันได้รับรู้ด้วยเถอะ
When You Say Nothing At All :Ronan Keating
It's amazing น่าทึ่งมากนะ How you can speak ที่เธอสามารถพูด
Right to my heart สื่อกับใจฉันได้
Without saying a word, โดยที่ไม่ได้เอื่อนเอ่ยคำใดเลย
You can light up the dark เธอเป็นแสงไฟขับไล่ความมืด
Try as I may แม้ว่าฉันจะพยายามอธิบายอย่างไร
I could never explain ก็ไม่มีวันอธิบายได้
What I hear when สิ่งที่ฉันได้ยินก็คือ ยามที่ซึ่ง
You don't say a thing เธอไ่ม่ได้เอ่ยเอื้อนคำใด
The smile on your face รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้น
Lets me know ทำให้ฉันรู้ว่า
That you need me เธอขาดฉันไม่ได้
There's a truth ความจริง
In your eyes ปรากฏอยู่ในดวงตาคู่นั้น
Saying you'll never leave me ดวงตาเธอบอกว่า เธอไม่มีวันทิ้งฉันไปหรอก
The touch of your hand says การสัมผัสของเธอมันบอกได้ว่า
You'll catch me เธอจะจับฉันไว้
Whenever I fall ยามที่ฉันล้มลง
You say it best เธอบอกฉันได้อย่างดีที่สุดแล้ว
When you say ในยามที่เธอไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใด
Nothing at all เพราะสายตาของเธอบอกฉันแล้ว
All day long วันทั้งวัน
I can hear people ฉันได้ยินผู้คน
Talking out loud พูดกับเซ็งแซ่
But when you hold me near แต่เมื่อเธอโอบกอดฉันไว้ใกล้ ๆ
You drown out the crowd เสียงผู้คนเหล่านั้นก็มลายหายไป
(The crowd)
Try as they may แม้พวกเขาจะพยายามอย่างไร
They could never define ก็ไม่มีวันที่จะได้คำนิยาม
What's been said สิ่งที่ได้พูดออกไป
Between your heart and mine ระหว่างใจของสองเราได้
คุณเคยเชื่อหรือเปล่าครับว่านัยน์ตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ
การที่ไม่พูดอะไรเลย ก็สามารถแสดงความรักความห่วงหาอาทรได้
ไม่เืชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะคนสมัยก่อนเขาไม่มาส่งเสียงปิดปิ้ว กรี๊ดกร๊าด
เหมือนคนสมัยนี้ หากชอบใคร รักใคร โกรธใครขึ้นมา เดี๋ยวนี้คนเรา
มักจะแผดเสียง เมื่อมีอารมณ์ ไม่ว่าดีหรือร้าย เรารับเอาอารมณ์ของ
พวกฝรั่งเขามา แต่ก็มีฝรั่งอีกกลุ่มหนึ่่งชอบใช้สายตาเพื่อบอกความในใจ
เหมือนสังคมไทย ญี่ปุ่นสมัยก่อน ดังในเนื้อเพลงนี้
Wall in Your Heart :Shelby Lynne
I fill your pain ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจเธอI feel the rain ฉันรู้สึกถึงสายฝนที่หนาวเหน็บ
What happened to you สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอนั้น
I can't get to you ฉันเข้าไปไม่ถึงหรอก
Cause there's a wall เพราะมีกำแพง
In your heart ที่เธอสร้างขึ้น (ในใจเธอ)
That no one can get through และไม่มีใครสามารถผ่านเข้าไปได้
And it's cold and it's dark มันทั้งหนาวเหน็บและมืดมิด
And you don't have a clue และเธอก็ไม่ได้บอกอะไรให้ฉันรู้เลย
But this wall it will fall แต่กำแพงนี้จะทลายลง
If it's the last thing I do ถ้าหากมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำ
I'll get through this wall in your heart ฉันจะฝ่ากำแพงเพื่อไปอยู่ในหัวใจเธอ
I know your soul ฉันหยั่งรู้จิตใจของเธอ
I know I'm home ฉันรู้ว่า ฉันคือบ้านที่อบอุ่น
Just come here to me เพียงแค่กลับมาหาฉันที่นี่
I'll let you run through me เพียงแค่คุณวิ่งมาหาฉัน
We'll break down all the troubles we have found ฉันจะฟันฝ่าอุปสรรค์ทั้งหลายที่เจอะเจอ
And I'll find a way to mend your broken pieces และฉันจะหาทางสมานใจที่รวดร้าวนั้น
We'll hold hands and be friends จับมือฉันซิ แล้วเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ
Until the end and our love will be forever จนกว่าจะจากกัน และจากนี้ความรักเราก็จะอยู่นิรันดรคำที่น่าสนใจ
We'll hold hands and be friends = จับมือฉันซิ แล้วเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ ประโยคนี้หมายความว่า การจับมือกันนั้นเท่ากับเป็นการหยิบยื่นความรักให้แก่กันและกันแล้ว การเป็นเพื่อนกันนั้น หมายถึงการเป็นเพื่อนคู่ชีวิตประคับประคองชีวิตคู่ให้ตลอดรอดฝั่ง เหมือนดั่งประโยคสุดท้ายตอนจบของเนื้อเพลง
Leaving on a Jet Plane :John Denver
All my bags are packed, I'm ready to go เก็บของใส่กระเป๋าเดินทาง,เตรียมพร้อมที่จะเดินทาง
I'm standing here outside your door ฉันกำลังยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของประตูเธอ
I hate to wake you up to say good-bye ฉันไม่อยากที่จะปลุกเธอเพื่อกล่าวคำอำลาเลย
But the dawn is breaking, it's early morn แต่ก็ค่อย ๆ ลงมาจากห้องนอน,เพราะเริ่มจะเช้าแล้ว
The taxi's waiting, he's blowing his horn รถแท๊กซี่ซึ่งกำลังรอ,บีับแตร่เร่งเร้า
Already I'm so lonesome I could die ตอนนี้ฉันรู้สึกเหงาแทบจะขาดใจ
So kiss me and smile for me จูบฉันและยิ้มให้ฉันหน่อย
Tell me that you'll wait for me บอกฉันซิว่า เธอจะคอยฉัน
Hold me like you'll never let me go กอดฉันทำเสมือนว่าเธอจะไม่ให้ฉันจากเธอไป
Cause I'm leaving on a jet plane เพราะว่า เครื่องบนจะพาฉันไปจากเธอ
I don't know when I'll be back again ฉันไม่รู้ว่า เมื่อไรฉันจะได้กลับมาอีก
Oh babe, I hate to go โอ ที่รัก, ฉันไม่อยากจากไปเลย
There's so many times I've let you down ก็คงจะมีอยู่หลายครั้งหลายหน ที่ฉันทำให้เธอผิดหวัง
So many times I've played around และก็มีบ่อยครั้งที่ทำให้ไม่สบายใจ
I tell you now, they don't mean a thing ฉันอยากจะบอกเธอตอนนี้ว่า, ฉันไม่ได้ตั้งใจในสิ่งต่าง ๆ นั้น
Every place I go I'll think of you ไม่ว่าฉันจะไปที่ใด ฉันจะคิดถึงเธอเสมอ
Every song I sing I'll sing for you ทุก ๆ เพลงที่ฉันร้อง ฉันจะร้องให้กับเธอ
When I come back I'll wear you a wedding ring เมื่อฉันกลับมา ฉันจะมาพร้อมแหวนแต่งงาน
Now the time has come to leave you ตอนนี้เวลาที่จะต้องพรากจากเธอมาถึงแล้ว
One more time let me kiss you ขอให้ฉันได้จูบลาเธออีกครั้งน๊ะ
And close your eyes and I'll be on my way
I'm standing here outside your door ฉันกำลังยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของประตูเธอ
I hate to wake you up to say good-bye ฉันไม่อยากที่จะปลุกเธอเพื่อกล่าวคำอำลาเลย
But the dawn is breaking, it's early morn แต่ก็ค่อย ๆ ลงมาจากห้องนอน,เพราะเริ่มจะเช้าแล้ว
The taxi's waiting, he's blowing his horn รถแท๊กซี่ซึ่งกำลังรอ,บีับแตร่เร่งเร้า
Already I'm so lonesome I could die ตอนนี้ฉันรู้สึกเหงาแทบจะขาดใจ
So kiss me and smile for me จูบฉันและยิ้มให้ฉันหน่อย
Tell me that you'll wait for me บอกฉันซิว่า เธอจะคอยฉัน
Hold me like you'll never let me go กอดฉันทำเสมือนว่าเธอจะไม่ให้ฉันจากเธอไป
Cause I'm leaving on a jet plane เพราะว่า เครื่องบนจะพาฉันไปจากเธอ
I don't know when I'll be back again ฉันไม่รู้ว่า เมื่อไรฉันจะได้กลับมาอีก
Oh babe, I hate to go โอ ที่รัก, ฉันไม่อยากจากไปเลย
There's so many times I've let you down ก็คงจะมีอยู่หลายครั้งหลายหน ที่ฉันทำให้เธอผิดหวัง
So many times I've played around และก็มีบ่อยครั้งที่ทำให้ไม่สบายใจ
I tell you now, they don't mean a thing ฉันอยากจะบอกเธอตอนนี้ว่า, ฉันไม่ได้ตั้งใจในสิ่งต่าง ๆ นั้น
Every place I go I'll think of you ไม่ว่าฉันจะไปที่ใด ฉันจะคิดถึงเธอเสมอ
Every song I sing I'll sing for you ทุก ๆ เพลงที่ฉันร้อง ฉันจะร้องให้กับเธอ
When I come back I'll wear you a wedding ring เมื่อฉันกลับมา ฉันจะมาพร้อมแหวนแต่งงาน
Now the time has come to leave you ตอนนี้เวลาที่จะต้องพรากจากเธอมาถึงแล้ว
One more time let me kiss you ขอให้ฉันได้จูบลาเธออีกครั้งน๊ะ
And close your eyes and I'll be on my way
และขอให้เธอหลับตาเพื่อฉันจะได้ปฏิบัติต่อเธอตามที่ฉันบอก
Dream about the days to come และฝันถึงวันที่จะต้องกลับมา
When I don't have to leave alone ฝันถึงวันที่ฉันไม่ต้องจากไปคนเดียว
About the times that I won't have to say เหมือนดังเวลานี้ที่ฉันไม่อยากเอ่ยอะไรออกมา
Cause I'm leaving on a jet plane เพราะฉันจะต้องไปโดยเครื่องบิน
I don't know when I'll be back again ฉันไม่รู้ว่า เมื่อไรฉันจะกลับมาอีก
Oh babe, I hate to go โอ ที่รัก, ฉันไม่อยากไปเลบส่วนหนึ่งในเนื้อเพลงมีว่า Every song I sing I'll sing for you
แสดงว่า เขาอาจเป็นนักร้องเช่นเดียวกับเพลงของ Scorpions ในเพลง
Always Somewhere ซึ่งชีวิตนักร้องนักแสดงจะไม่ค่อยมีเวลาให้กับ
คนรักเท่าไรนัก นาน ๆ จึงจะกลับมาหาคนรักสักครั้ง คนรักคงต้องอดทนหน่อย
Dream about the days to come และฝันถึงวันที่จะต้องกลับมา
When I don't have to leave alone ฝันถึงวันที่ฉันไม่ต้องจากไปคนเดียว
About the times that I won't have to say เหมือนดังเวลานี้ที่ฉันไม่อยากเอ่ยอะไรออกมา
Cause I'm leaving on a jet plane เพราะฉันจะต้องไปโดยเครื่องบิน
I don't know when I'll be back again ฉันไม่รู้ว่า เมื่อไรฉันจะกลับมาอีก
Oh babe, I hate to go โอ ที่รัก, ฉันไม่อยากไปเลบส่วนหนึ่งในเนื้อเพลงมีว่า Every song I sing I'll sing for you
แสดงว่า เขาอาจเป็นนักร้องเช่นเดียวกับเพลงของ Scorpions ในเพลง
Always Somewhere ซึ่งชีวิตนักร้องนักแสดงจะไม่ค่อยมีเวลาให้กับ
คนรักเท่าไรนัก นาน ๆ จึงจะกลับมาหาคนรักสักครั้ง คนรักคงต้องอดทนหน่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น